ถ้าจะให้พูดถึงกีต้าร์ไฟฟ้าดีๆสักตัว คงหนีไม่พ้นกีต้าร์ไฟฟ้าของแบรนด์ Yamaha เป็นแบรนด์ที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่นแต่ถูกใจเป็นอย่างมากกับชาวเอเชียอย่างมาก ซึ่งซาวน์เสียงและเอกลักษณ์จะแตกต่างกับกีต้าร์ของชาวอเมริกา เพื่อนคนไหนที่ชอบกีต้าร์ไฟฟ้าที่ออกเสียงใส ต้องไม่พลาดกับกีต้าร์ไฟฟ้าของแบรนด์ Yamaha เลยก็ว่าได้ มีหลายรุ่นที่ได้รับการตอบรับจากคนเอเชียเป็นอย่างดี โดยทางแบรนด์ Yamaha ได้ผลิตออกมาให้มีรูปทรงที่เป็นของตัวเอง และทำให้กีตาร์มีน้ำหนักที่เบาและคอเล็ก บางรุ่นทำให้ดูออกแนวย้อนยุคเพื่อมาตีตลาดแข่งกับแบรนด์ Gibson อย่างไรก็ตามข้อดีของแบรนด์ Yamaha ยังผลิตออกมาให้ตอบโจทย์กับคนเอเชียด้วย ให้ทนทุกสภาพของอากาศที่ร้อนอย่างประเทศเรา ส่วนสเปคของกีต้าร์แต่ละรุ่นนั้นก็แตกต่างกันออกไปแต่ที่เหมือนกันก็คือคุณภาพที่ใส่ใจเรื่องวัสดุของกีต้าร์ ทางแบรนด์ Yamaha ก็ไม่เป็นสองรองใครเลย วันนี้แอดจึงจะพาเพื่อนๆไปส่อง กีต้าร์ไฟฟ้า yamaha ที่มีราคาไม่เกิน 20000 บาท สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่กำลังจะหัดมาจับกีต้าร์แบบมืออาชีพแต่ยังคงงบน้อยอยู่ แต่ในส่วนเรื่องคุณภาพก็ยังคงอัดแน่นเหมือนเดิม บอกเลยว่าคุ้มค่าราคาที่เกินคาดแน่นอน
H2 : 4 รุ่น กีต้าร์ไฟฟ้า yamaha พาส่องกีต้าร์สุดเจ๋ง ราคาไม่เกิน 20000 บาท
สำหรับเพื่อนๆที่กำลังหัดมาจับกีต้าร์อย่างมืออาชีพ แต่ไม่มีงบประมาณในการซื้อกีต้าร์ไฟฟ้าในราคาหลักแสนได้ วันนี้แอดจึงจะมาเสนอกีต้าร์ไฟฟ้า yamaha ที่ให้เสียงที่ดี คุณภาพนั้นอัดแน่นเกินคาดในงบประหยัดราคาไม่เกิน 20000 บาท จะมีรุ่นไหนบ้างเราไปดูกันเลย
1. Yamaha ERG121U
รุ่นแรกสำหรับคนที่งบประเยอะมาก ราคาไม่เกิน 10000 บาท แนะนำรุ่น Yamaha ERG121U ใครที่กำลังหัดเริ่มกีต้าร์ไฟฟ้าต้องรุ่นนี้ของ Yamaha เลยนอกจากจะราคางบน้อยแล้ว ในส่วนของด้านคุณภาพเสียงก็ไม่เป็นสองรองใคร สเปคต่างๆของรุ่นนี้ทำจากไม้อย่างดี ในส่วนของบอดี้จะทำมาจากไม้อกาธิสที่จะทำให้เกิดเสียงที่หนาแบบดีดแล้วสะใจคนเล่นแน่นอน ส่วนของคอจะทำจากไม้เมเปิ้ล จะเชื่อมส่วนของคอแบบ Bolt-on ข้อดีของไม้เมเปิ้ลก็คือจะเป็นไม้ที่น้ำหนักเบา มักจะอยู่ในกีต้าร์ที่ราคาค่อนข้างสูงเพราะไม้ค่อนข้างมีราคา แต่ Yamaha ก็เลือกที่จะผลิตกีต้าร์ไฟฟ้าราคาย่อมเยาแต่เลือกใช้ไม้ที่มีคุณภาพ ส่วนในเรื่องของข้อด้อยของไม้เมเปิ้ลเบสน้อย ย่านเสียงต่ำจะไม่ค่อยเด่นถ้าเทียบกับไม้โรสวู้ดเท่าไร แต่ย่านเสียงสูงก็จะดีแต่ก็ไม่เท่ากับไม้มะฮอกกานี ในส่วนของฟิงเกอร์บอร์ดทำจากวัสดุโซโนเคลลิ่ง ในตัวของบริดจ์สามารถใส่คันโยกได้ และในส่วนของปิ๊กอัพจะมี 2 แบบเลยคือ แบบซิ้งเกิ้ลคอยล์ 1 ตำแหน่งและแบบฮัมบัคกิ้ง 2 ตำแหน่ง บอกเลยว่าถึงในตัสวัสดุจะมีทั้งข้อดีและข้อด้อย แต่ก็ไม่ได้มีผลสำหรับคนที่กำลังจะหัดเล่นกีต้าร์ไฟฟ้า
ราคา : 6,300 บาท
2. Yamaha PACIFICA-212VFM
Yamaha PACIFICA-212VFM จะมีรูปร่างและลวดลายที่สะดุดตา เพราะสเปคของกีต้าร์ไฟฟ้ารุ่นนี้ทำวัสดุจากไม้ดีเลยทีเดียว ในส่วนของตัวบอดี้นั้นทำมาจากไม้เอลเดอร์ ที่มีถิ่นกำเนิดจากประเทศอเมริกาตัวไม้จะราคาไม่สูงมากแต่ลวดลายสวยงาม ไม้ชนิดนี้จะตอบสนองให้เสียงใส ย่ายเสียง แหลม ทุ้มเป็นอย่างดีและที่สำคัญคือน้ำหนักเบา มี resonance ที่กังวาน ด้านหน้าจะเป็นเฟรมเมเปิ้ลจะทำให้มีความแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ส่วนคอจะทำจากไม้เมเปิ้ล และเฟรทบอร์ดทำจากไม้โรสวู้ด โดยรุ่นนี้ออกแบบมาจากรุ่น Pacifica-2V ส่วนในปิ๊กอัพจะเป็นฟังชั่นแบบ อัลนิโก วี ซิงเกิลคอล์ 2 ตำแหน่งและอัลนิโก วี ฮัมบักเกอร์ 1 ตำแหน่ง รุ่นนี้ราคาจะเพิ่มขึ้นมาหน่อยแต่ใช้วัสดุไม้ที่ค่อนข้างจะแปลกไปจากรุ่นแรกที่แอดได้แนะนำ
ราคา : 14,500 บาท
3. Yamaha PACIFICA-212VQM
Yamaha PACIFICA-212VQM ถ้าถามหาความแตกต่างของรุ่นนี้กับรุ่น PACIFICA-212VFM แน่นอนว่าราคาเท่ากันเลย แต่ความต่างอยู่ที่ รุ่นนี้จะใช้ด้านหน้าบอดี้เป็นควิ้นเมเปิ้ลไม่ใช่เฟรมเมเปิ้ล แต่จริงๆทั้งสองเกิดจากตระกูลเมเปิ้ลเหมือนกัน เสียงจะคล้ายกันมากแทบจะแยกไม่ค่อยออก ต่างกันตรงลวดลายที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เพื่อให้เพื่อนๆได้เลือกลายที่ต่างกันของสองรุ่น ซึ่งสเปคอื่นๆอย่างตัวบอดี้ก็ทำมาจากไม้เอลเดอร์เหมือนกัน ในส่วนของคอและส่วนหัวทำจากไม้เมเปิ้ลที่ให้ความแข็งแรงและทนทาน ในส่วนของเสียงมีความใส และมีเสียงที่ทื่อกว่าถ้าเกิดว่าเปรียบเทียบจากการใช้ไม้ชนิดอื่นอย่างไม้แอชและไม้เบสวู้ด ส่วนใครที่ลังเลทั้งสองรุ่นนี้ ให้ดูที่ความชอบของลวดลายบนหน้าบอดี้ของกีต้าร์ไฟฟ้าได้เลย
ราคา : 14,500 บาท
4. Yamaha RS420
ในส่วนของรุ่นสุดท้ายแนะนำเป็นรุ่น Yamaha RS420 จากตัวบอดี้จะเห็นถึงความเงียบง่ายแต่มีความโดดเด่นถ้าได้รู้ถึงวัสดุที่ทางแบรนด์นั้นได้เลือกใช้ ตัวบอดี้จะใช้เป็นท้อปเมเปิ้ล คือลายของไม้เมเปิ้ลที่เกิดจากความธรรมชาติ ที่ให้ความเสียงใส ย่านเสียง ทุ้ม แหลม มีความกังวาน และด้านหน้าจะเป็นตัวไม้นาโต้ ที่ยังแฝงใช้ไม้ที่นิยมปลูกในแทบญี่ปุ่นให้เกิดความทนทานและทนทุกสภาพอากาศของบ้านเรา ตัวโครงสร้างจะเป็นแบบ Set-in คือการต่อคอด้วยการสลักและการต่อด้วยกาวนั้นเอง ในส่วนของคอจะใช้เป็นไม้นาโต้ที่ให้ความแข็งแรง และฟิงเกอร์บอร์ดเป็นไม้โรสวู้ดที่ให้เสียงที่ต่ำฟังสบายหู เสียงเบสหนาให้ความลึกของเสียงได้ดี ในเรื่องของบริดจ์จะเป็นแบบ Tune-o-matic/Stop Tailpiece คือตัวเส้นจะถูกสอดผ่านไปยังส่วน stop tail และรอดผ่านส่วน tune-o-matic ที่มีตัวแซดเดิลอีกที สามารถตั้ง intonation แยกของแต่ละสายได้ แต่จะไม่สามารถตั้งความสูงต่ำของแต่ละสายได้ ซึ่งข้อดีของการหย่องแบบนี้คือการได้เสียงซัสแทนที่ดี
ราคา : 19,000 บาท
เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับ 4 รุ่นกีต้าร์ไฟฟ้า yamaha ที่แอดเลือกสรรมาแต่รุ่นที่ราคาย่อมเยาสำหรับสายที่กำลังจะหัดซื้อมาเล่นในส่วนของกีต้าร์ไฟฟ้า พอจะชอบกันบ้างหรือเปล่า ในส่วนของคุณภาพกีต้าร์ไฟฟ้าที่แอดเลือกมา ส่วนใส่จะเลือกใช้ไม้ที่ทนต่อสภาพอากาศบ้านเรา และให้เสียงใส ย่าน ทุ้ม แหลมและมีความกังวานในตัว เหมาะสมกับราคาที่ไม่แพงจนเกินไป ซื้อแล้วยังสามารถใช้ได้อีกนานเผลอๆส่งต่อเล่นเป็นมืออาชีพได้อีกด้วย
ขอบคุณรูปจาก