แนะนำ 4 รุ่น กี ต้า ร์ ไฟฟ้า epiphone แบรนด์คุณภาพ ราคาไม่เกิน 20000 บาท

แนะนำ 4 รุ่น กี ต้า ร์ ไฟฟ้า epiphone แบรนด์คุณภาพ ราคาไม่เกิน 20000 บาท

          ถ้าจะให้เลือกว่าต้องซื้อกีต้าร์ไฟฟ้าสักตัวเป็นเครื่องแรกในชีวิตก็อยากจะหารุ่นที่มันไม่แพงมาก แต่เน้นที่คุณภาพของเสียง รูปทรงที่มีเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งทางแบรนด์ epiphone นั้นตอบโจทย์เป็นอย่างมาก โดยที่มาของบริษัท epiphone นั้นก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1935 จุดเริ่มต้นของแบรนด์นี้เริ่มต้นจากประเทศกรีช และได้อพยพมาอยู่ที่อเมริกา ซึ่งเริ่มแรกเลยทางแบรนด์จะมีทรงเฉพาะคือ Rickenbacker หลังจากนั้นไม่นานเจ้าของได้เสียชีวิตลงทำให้ Gibson เข้ามาเทคโอเวอร์ epiphone แทนทำให้มีทรง Les Paul ผลิตออกมาเรื่อยๆเหมือนกับแบรนด์ของ fender
จึงทำให้ทรงเดิมเริ่มค่อยๆหายไป ในเวลาต่อมาช่วงปี 1975 ได้เริ่มมาจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นทำให้กระแสในช่วงนั้นดีเกินคาด ทางแบรนด์จึงมาตีตลาดล่าง ผลิตกีต้าร์ไฟฟ้าออกมาให้ในราคาที่ย่อมเยา และหันมาผลิตในประเทศจีน เกหลี อินโดนีเซียแทนเพื่อลดต้นทุนการผลิต จึงทำให้ในปัจจุบันมีหลายรุ่นที่ได้รับการตอบรับดีมากในราคาบางรุ่นที่ไม่ถึงหลักหมื่นเลยด้วยซ้ำ วันนี้แอดจึงจะพาเพื่อนๆไปส่อง กี ต้า ร์ ไฟฟ้า epiphone ว่ามีรุ่นไหนที่เสียงดีแล้วยังราคาไม่เกินงบอีกด้วย

4 รุ่น กี ต้า ร์ ไฟฟ้า epiphone ที่ได้รับความนิยม ในงบที่ไม่เกิน 20000 บาท

            สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่กำลังมองหา กี ต้า ร์ ไฟฟ้า epiphone อยู่นั้น วันนี้แอดจึงมารวบรวม 4 รุ่นที่เสียงดี มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง แถมในเรื่องของราคานั้นก็ไม่บานปลาย คุ้มงบที่จะซื้อกีต้าร์ดีๆสักตัวไว้ใช้งานแน่นอน จะมีรุ่นไหนกันบ้างเราไปดูพร้อมกันเลย

1. Epiphone SLASH “AFD” LES PAUL SPECIAL-II

            สำหรับรุ่นแรกเป็นรุ่น SLASH “AFD” LES PAUL SPECIAL-II ถือได้ว่าเป็นรุ่น ซิกเนเจอร์ ของ Slash ที่มาพร้อมกับทรงบอดี้ของ Lespaul เอกลักษณ์ของแบรนด์ Epiphone  จุดเด่นของรุ่นนี้นั้นใช้ไม้ทำบอดี้เป็นไม้มะฮอกกานี
และไม้หน้าเปนไม้เมเปิ้ล ความพิเศษของไม้เมเปิ้ลนอกจากจะมีเนื้อไม้ที่ให้ลายสวยงามจากธรรมชาติแล้ว ยังให้เสียงที่ใส ซึ่งเนื้อไม้เป็นไม้เนื้ออ่อน แต่สามารถทนทุกสภาพอากาศของบ้านเราได้ ถือว่าการเก็บรักษารุ่นนี้ค่อนข้างที่จะง่ายเลย ส่วนคอนั้นทำมาจากไม้มะฮอกกานีเช่นกัน ฟิงเกอร์บอร์ดทำมาจากไม้โรสวู้ด มีอินเลย์ลายจุด ตัวบริดจ์รุ่นนี้จะเป็น Tune-o-Matic ทางปิ๊กอัพคอและปิ๊กอัพบริดจ์จะใช้เป็นรุ่น Open Coil Humbucker ให้โทนเสียงที่หนาขึ้น เอาใจชาวร็อคเป็นอย่างดี

ราคา : 9,000 บาท

2. Epiphone Les Paul Studio LT

            Epiphone Les Paul Studio LT มาพร้อมกับ 4 สีให้เลือกคือ Vintage Sunburst / Heritage Cherry Sunburt / Ebony / Walnut เป็นซีรี่ส์ใหม่ของตัว Les Paul ที่ออกมาดูสวยงามพร้อมความเคลือบด้านของไม้หน้า มากับบอดี้ทรง Les Paul แบบ Solid Body ออกสไตล์โบราณวินเทจหน่อยๆด้วยตัวของ 4 สีที่ผลิตออกมาเน้นไปทางโทนน้ำตาล ดำ ส่วนตัวบอดี้ทำจากไม้มะฮอกกานีและคอก็ทำมาจากไม้มะฮอกกานี ที่ให้เสียงหนานุ่มอย่างลงตัว มากับคอทรงแบบ SlimTaper ทรง D แบบปี 60 การเชื่อมคอแบบ Bolt-on ในตัวฟิงเกอร์เบอร์ทำจากไม้โรสวู้ด อินเลย์ลายจุดด้วย
จำนวนของเฟรตมี 22 เฟรต ขนาดเฟรตแบบ Midium Jumbo ซึ่งรุ่นนี้ให้ความหนาของเสียงที่ดุดันขึ้น ถือว่าเข้าใจชาวร็อคเลยเพราะปิ๊กอัพคอใช้รุ่น Epiphone 650R Zebra-coil Humbucker และปิ๊กอัพบริดจ์จะใช้รุ่น Epiphone 700T Zebra-coil Humbucker โดยแผงควบคุม 4 ปุ่มนั้นเป็นโวลุ่ม 2 โทน 2 สามารถปรับได้ตามใจชอบเลย เพราะสวิช์ปิ๊กอัพสามารถปรับได้ถึง 3 ทาง สำหรับใครสาวก Les Paul ที่ปรับดีไซน์ใหม่ดูดีกว่าเดิมบอกเลยไม่ควรพลาด

ราคา : 8,550 บาท

3. Epiphone Les Paul Muse

            Epiphone Les Paul Muse สำหรับรุ่นนี้จุดเด่นอยู่ตรงที่มีการเคลือบ Metallic ภายนอกที่ไม่เหมือนใคร รุ่นนี้มีหลากหลายสีให้เลือกประมาณ 7 สี อาทิ Jet Black / Pearl White / Purple Passion / Radio Blue / Scarlet Red เป็นต้น มากับบอดี้ทรง Les Paul บอดี้จะทำจากไม้มะฮอกกานีแบบบางลงกว่ารุ่นอื่น และทำคอจากไม้มะฮอกกานี ทรงคอจะเป็นแบบ Custom C ฟิงเกอร์เบอร์บอร์ดทำจากไม้อินเดียน ลอเรล อินเลย์ด้วยลายสี่เหลี่ยมคางหมู
จำนวนเฟรตจะขนาด 22 เฟรต ขนาดแบบ Midium Jumbo จากสเปคทั้งหมทำให้ตอนเล่นนั้นเล่นง่ายยิ่งขึ้นจากวัสดุที่บางลง และให้ความหนาของเสียง ที่ดุดันขึ้นจากปิ๊กอัพคอและปิ๊กอัพบริดจ์จะใช้รุ่น Alnico Classic PRO™ ส่วนปุ่มโวคอลจะใช้แบบ treble bleed จะสามารถปรับเพิ่มเสียงแหลมและตัดคอยล์ได้ตามใจชอบ และในส่วนของปุ่มโทนจะใช้แบบ phase switch และทางสวิช์ปิ๊กอัพสามารถปรับได้ถึง 3 ทางเลยทีเดียว บอกเลยว่าตอบโจทย์สำหรับสายมือใหม่แน่นอน

ราคา : 18,000 บาท

4.  Epiphone SG Muse

            สำหรับรุ่นสุดท้ายบอกเลยว่าออกมาเมื่อปี 2020 ที่ดีไซน์ของสีนั้นโดดเด่นมาก ทำให้มีความสะดุดตาเป็นอย่างมากอย่างรุ่น Epiphone SG Muse ที่ออกมาทั้งหมด 7 สี อาทิ Jet Black / Pearl White / Purple Passion / Radio Blue / Scarlet Red เป็นต้น จะมีการเคลือบ Metallic มากับบอดี้ทรง SG ด้วยตัวบอดี้ทำจากไม้มะฮอกกานีเช่นเดียวกับส่วนของคอ ที่มีรูปทรง Custom C ฟิงเกอร์บอร์ดจะทำจากไม้อินเดียนลอเรล อินเดย์ด้วยลายสี่เหลี่นมคางหมู
จำนวนของเฟรต 22 เฟรต ขนาด Midium Jumbo จะเห็นได้จากสเปคจะตล้ายกับตัวรุ่น Les Paul Muse เลย แต่ในความแตกต่างอยู่ที่ ตัวทรงบอดี้ของทั้งสองรุ่น และในส่วนของปิ๊กอัพคอและปิ๊กอัพบริดจ์ ก็จะใช้รุ่น Alnico Classic PRO™ เหมือนกัน ปรับให้ซาวน์มีความพุ่งแรง ดุดันมากขึ้นปรับตัว treble bleed ของผุ่มโวคอลที่สามารถปรับเสียงแหลมและตัดคอยล์ ใครที่ชื่นชอบรูปทรงตัวบอดี้แบบ SG บอกเลยว่าห้ามพลาด

ราคา : 15,300 บาท

            เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ กี ต้า ร์ ไฟฟ้า epiphone ที่แอดได้แนะนำไปทั้งหมด 4 รุ่น เป็นรุ่นที่ราคาไม่เกิน 10,000 บาท และยังเป็นรุ่นที่อยู่ในกระแสให้ความนิยมของแบรนด์ Epiphone เสมอมา ด้วยวัสดุและสเปคที่ทางแบรนด์เลือกใช้เพื่อตีตลาดล่างผลิตออกมาในราคาที่ย่อมเยามากขึ้นทำให้ตอบโจทย์สายมือใหม่ที่กำลังมองหากีต้าร์ไฟฟ้าดีๆไว้สักตัว อย่าลืมเอากีต้าร์ไฟฟ้าของแบรนด์ Epiphone ไปเป็นตัวเลือกด้วยนะ

ขอบคุณรูปจาก

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=taodang

https://www.bigtone.in.th/product/epiphone-slash-afd-les-paul-special-ii/

https://ctmusicshop.com/product/epiphone-les-paul-studio-lt/

https://ctmusicshop.com/product/epiphone-les-paul-muse/

https://musicentrance.com/product/%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2-epiphone-sg-muse/

Credit By : Ufabet