การที่เราจะมองหากีต้าร์สักตัวมาไว้ข้างกาย เชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนนอกจากจะดูจะสเปคของกีต้าร์ตัวนั้นแล้ว ความสวยงามนั้นก็เลี่ยงไม่ได้เลยที่จะต้องมานั่งพิจารณาถึงตัวที่อยากได้ บางคนชอบสเปคแต่ตัวเครื่องมีสีสันที่ไม่โดนใจก็เป็นเรื่องที่ตัดสินใจยากทีเดียว กว่าจะเจอตัวที่ถูกใจได้แต่ละตัวทำเอาใช้เวลาคิดนานอยู่หลายวัน ซึ่งทางแบรนด์ fender ได้ออกผลิตมาหลายรุ่นที่เน้นสีสันออกพาสเทล เอาใจกลุ่มที่ชอบสีสันบนตัวเครื่องไม่ใช่สีดำ สีน้ตาล สีไม้ สีขาว แบบแบรนด์อื่นๆที่ทำกัน นอกจากนั้นยังตอบโจทย์สาวๆที่ชอบกีต้าร์ไฟฟ้าอีกด้วย ให้เข้ากับลุคและสไตล์ให้matchกับเสื้อผ้ามากยิ่งขึ้นเวลาขึ้นโชว์หรือแสดงบนเวที วันนี้แอดจึงมาแนะนำ กีต้าร์ไฟฟ้า fender ที่มีสีสันโดนใจสายพาสเทล มองกี่ทีก็น่ารักโดนใจ บวกกับสเปคของเครื่องที่ยังเน้นในเรื่องของคุณภาพวัสดุและคุณภาพของเสียงอีกแล้วด้วย จะอดใจไหวได้ยังไง
แนะนำ 4 รุ่นกีต้าร์ไฟฟ้า fender เอาใจสายพาสเทล ไม่ได้มีดีแค่สีสันบนตัวเครื่อง
นอกจากคุณภาพของเสียงและคุณภาพของวัสดุที่ใช้ทำสเปคของกีต้าร์แล้ว เรื่องของความสวยงามและสีสันของตัวกีต้าร์ก็เป็นอะไรที่สำคัญถ้าได้ตัดสินใจซื้อกีต้าร์ไฟฟ้าดีๆสักเครื่องแล้ว อย่างนั้นเราไปดูกันเลยว่าจะมีกีต้าร์ไฟฟ้า fender รุ่นไหนบ้างที่ตอบโจทย์แบบแพ็คคู่
- Fender Player Stratocaster

รุ่นแรก Fender Player Stratocaster มาพร้อมกับสีพาสเทลแสนน่ารัก ไม่ว่าจะเป็นสี Tidepool Maple neck / Buttercream Maple neck / Capri Orange Maple neck / Sage Green Maple neck และสีพื้นฐาน สีขาว ดำ เป็นต้น สีของตัวเครื่องอ่อนข้างไม่ออกสีสดใสมากนักจะเน้นไปทางพาสเทลดูละมุนตา ส่วนสเปคของเครื่องนี้ ทางแบรนด์ fender บอดี้จะเป็นทรง Stratocaster จะทำจากไม้เอลเดอร์ที่มีเนื้อไม้ในลักษณะที่อ่อน จึงมีน้ำหนักเบา จึงมีเสียงที่สมดุล ส่วนของคอจะทำมาจากไม้เมเปิ้ลเป็นทรง Modern C เคลือบตัวบอดี้ด้วยโพลีเอสเตอร์ และส่วนฟิงเกอร์บอร์ดก็ทำมาจากไม้เมเปิ้ลเหมือนกัน โดยการวางโครงปิ๊กอัพจะเป็นแบบ SSS ส่วนของปิ๊กอัพคอ ปิ๊กอัพกลาง ปิ๊กอัพบริดจ์ จะใช้เป็นรุ่น Player Series Alnico V Strat Single-coil 3 ตัวเรียงกันจึงเกิดเสียงที่มีเอกลักษณ์ของ fender บริดจ์จะยึด 6 สายสามารถใส่คันโยกได้ด้วย นอกจากจะสีสันสวยงาม ราคาก็ย่อมเยาว์สำหรับกีต้าร์ไฟฟ้าอีกด้วย
ราคา : 27,000 บาท
- Fender Player Telecaster HH

สำหรับรุ่น Fender Player Telecaster HH มาพร้อมกับ 3 สี มีสีพาสเทล 2 สีก็คือ Maple,Tidepool / Pau Ferro,Sonic Red และอีกสีคือ 3-color sunburst นอกจากในเรื่องของสีที่โดนใจแล้ว กีต้าร์ไฟฟ้า fender ได้รับประกันในเรื่องของเสียงเป็นอย่างดี เพราะวัสดุที่ใช้ประกอบกีต้าร์ไฟฟ้ารุ่นนี้ ไม้บอดี้จะเลือกใช้เป็นไม้เอลเดอร์ ที่มีน้ำหนักเบา ให้เสียงใสที่สมดุล และตัวของคอจะใช้เป็นไม้เมเปิ้ลที่ให้ความแข็งแรงทนทุกสภาพอากาศ มากับรูปทรงแบบ Modern C ถ้าให้พูดกันตามตรงวัสดุทั้งสองอย่างก็จะเหมือนกับอีกหลายรุ่นของ fender แต่ความต่างของรุ่นนี้คือ ในส่วนของปิ๊กอัพหน้าและปิ๊กอัพหลังจะใช้เป็น Player Series Alnico II Humbucker ให้เสียงที่หนา ดุดัน ซาวน์ของรุ่นนี้จะพุ่งแรงเหมาะกับเล่นเพลงร็อค ให้ชอบแนวนี้ก็ห้ามเลย
ราคา : 27,900 บาท
- Fender Traditional II 70S Telecaster Thinline

Fender Traditional II 70S Telecaster Thinline สำหรับรุ่นนี้จะมีทั้งหมด 3 สี ก็คือ Natural / Surf Green / US Blonde แต่ละสีให้ความเรียบง่ายออกโทนสว่างคลีนๆ ไม่ดูเยอะจนเกินไป รุ่นนี้ถูกออกแบบโดยหลอมความดั้งเดิมของ fender ทำเครื่องดนตรีด้วยงานฝีมือของญี่ปุ่นที่มีความซับซ้อน จึงผลิตในประเทศญี่ปุ่นนั้นเอง ตัวบอดี้ทำจากไม้แอช ที่ได้รับความนิยมเฉพาะของแบรนด์ fender เลยก็ว่าได้ ต้องบอกก่อนว่าไม้แอชมีอยู่สองแบบก็คือ Hard Ash และ Swamp Ash แต่ในยุค 50’s 70’s จะนิยมใช้ไม้ swamp ash จะให้เสียงที่ดูอุ่นกว่าและสมดุลกว่าตัว Hard Ash และมีเสียงที่ย่านกลางชัดเจนจะคล้ายกับไม้เอลเดอร์เลย แต่มีซัทเทนที่ดีกว่า ในส่วนคอนั้นทำจากไม้เมเปิ้ล ขนาด9.5”-radius “U” shape maple neck ขนาด 21 จะทำให้เสียงดูวินเทจมากยิ่งขึ้น
ราคา : 35,100 บาท
- Fender American Professional II Stratocaster

Fender American Professional II Stratocaster สำหรับรุ่นนี้นอกจากจะมีสีพาสเทล Olympic White / Mystic Surf Green / Miami Blue ยังมีสีให้เลือกอีกเพียบอย่าง 3-Color Sunburst / Mercury / Dark Night / Roasted Pine / Black / Siena Sunburst นอกจากนั้นรุ่นนี้ยังมีให้เลือกตัวฟิงเกอร์บอร์ดทั้งไม้เมเปิ้ลและไม้โรสวู้ดอีกด้วย ถ้าถามถึงความต่างของสองไม้นี้ ไม้เมเปิ้ลจุดเด่นจะอยู่ที่ลวดลายของไม้ที่สวยงามมากคล้ายกับก้อนเมฆ Birds’ eye Maple ให้โทนเสียงที่แหลม สดใน และไม้โรสวู้ดจะมีลวดลายของไม้ที่สวยงามเหมือนกันแต่มีน้ำหนักค่อนข้างหนัก จะให้โทนเสียงหนา นุ่ม ลึก ส่วนตัวบอดี้จะใช้เป็นไม้เอลเดอร์ซึ่งไม้ชนิดนี้จะให้เสียงคลีนหวานใส ตอบสนองย่าน ทุ่ม แหลม ได้เป็นอย่างดี ส่วนคอจะใช้เป็นไม้เมเปิ้ล เคลือบคอด้วยยูรีเทนซาตินยูรีเทนแบบ Super-Natural และส่วนที่ด้านหลังของคอด้วยหน้าสต็อกยูรีเทนเคลือบเงา รูปคอทรง C ตำแหน่งปิ๊กอัพเป็นแบบ SSS คือ ปิ๊กอัพบริดจ์ ปิ๊กอัพกลาง ปิ๊กอัพคอจะเป็นแบบ V-Mod II Stratocaster Single-Coil 3 ที่มห้เสียงอบอุ่นสไตล์วินเทจ ในส่วนของราคารุ่นนี้แอบแรงกว่ารุ่นอื่นที่แอดได้แนะนำไป แต่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพที่มากขึ้น
ราคา : 57,600 บาท
มีรุ่นไหนที่สีสันสะดุดตากันบ้างหรือเปล่า ทนความน่ารักของเจ้าตัวกีต้าร์ไฟฟ้า fender กันไม่ไหวแล้วหรือเปล่าค่า แอดหวังว่าเพื่อนๆจะถูกใจสีของกีต้าร์ไฟฟ้า fender กันอยู่ไม่มากก็น้อย ในเรื่องของคุณภาพทางแบรนด์ fender เข้าก็จัดเต็มไม่แพ้กับแบรนด์อื่นๆเลยก็ว่าได้ สำหรับใครที่กำลังมองหากีต้าร์ทั้งมีคุณภาพเสียงและคุณภาพสเปคพร้อมกับสีสันที่ดูน่ารัก ไม่เน้นสีที่ดุดันจนเกิน หวังว่าแบรนด์ fender จะตอบโจทย์และตรงใจกับเพื่อนนะ
ขอบคุณรูปจาก
https://ctmusicshop.com/product/fender-traditional-70s-telecaster-thinline/
https://ctmusicshop.com/product/fender-american-professional-ll-stratocaster-shell-pink/
https://www.musicmeshop.com/product/997/fender-standard-stratocaster-hss
https://taodangmusic.com/th/guitar/2181–fender-player-stratocaster-mn-butter-cream.html
https://ctmusicshop.com/product/fender-player-stratocaster/
https://ctmusicshop.com/product/fender-player-stratocaster/
https://www.bigtone.in.th/product/fender-player-telecaster-hh/
https://ctmusicshop.com/product/fender-american-professional-ii-stratocaster/
Credit by :
แทงบอลออนไลน์
สล็อตเว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์